สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวเรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต เมื่อเวลา 15.52 น. วันพฤหัสบดีที่ 13 ต.ค.2559 สิริพระชนมพรรษา ปีที่ 89 นั้น
ซึ่งผู้สื่อข่าว CNN ประจำประเทศไทย ได้ลงพื้นที่รายงานสดจากหน้า รพ.ศิริราช ไปยังห้องส่งที่สหรัฐฯ โดยระบุว่าประชาชนเป็นจำนวนมากต่างยืนรอฟังข่าว เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์สำนักพระราชวัง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯเสด็จสวรรคต
โดย ผู้สื่อข่าว CNN ได้สัมภาษณ์ หญิงชาวไทยรายหนึ่งที่ยืนรอติดตามข่าวอยู่ที่หน้ารพ. ซึ่งหญิงคนดังกล่าวตอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งน้ำตาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปรียบเสมือนพ่อสำหรับตนเอง และคิดว่าคนไทยทั้งประเทศก็คิดแบบเดียวกับตน
ด้าน ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนชื่อดัง ได้โพสต์คลิปการสัมภาษณ์ดังกล่าว ซึ่งหญิงสาวกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "สำหรับฉันแล้ว พระองค์คือพ่อ คือปู่ ไม่ใช่เทพเจ้าสมมติ แต่เป็นพ่อของทุกคน เป็นพ่อที่ทำงานมาตลอด 70 ปี โดยไม่มีวันหยุด แม้กระทั่งเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาล
ฉันหวังอย่างสุดใจว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ฉันอยากจะเชื่อในปาฏิหาริย์ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าปาฏิหาริย์เป็นเพียงแค่เรื่องสำหรับเด็ก เป็นแค่นิทานก่อนนอน เพราะปาฏิหาริย์ไม่เกิดขึ้นกับพระองค์
ฉันยังคิดอยู่ตลอดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องโกหก ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง
ถามว่าสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้ประชาชนมากมายแค่ไหน...ลองคิดถึงว่าคุณมีลูก แล้วคุณอยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดของลูก พระองค์เองก็เหมือนกัน พระองค์ทรงทำทุกอย่างที่ดีที่สุดสำหรับลูกๆ ของท่าน ในฐานะพ่อ ในฐานะคนเป็นปู่ เป็นตา พระองค์ทรงทำเพื่อลูก 70 ล้านคนในประเทศ โดยไม่เคยหยุดพักสักวันเดียว เพื่อความเป็นอยู่ของลูกๆ ของท่าน
ทุกครั้งที่ฉันมองพระองค์ ฉันเห็นกษัตริย์ที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ไม่ได้อยู่ในปราสาทหลังใหญ่ ไม่ใช่พระราชาแบบในนิยาย"